ภูมิปัญญาแพทย์จีน รักษาด้วยคุณธรรมและน้ำใจ สู่ตำรับยาหอม หมอวิรัติ ของดีเมือง อุทัยธานี
หมอวิรัติ เป็นลูกหลานชาวจีนเกิดในชุมชนอุทัยธานี ถูกส่งไปเรียนวิชาการแพทย์ที่ประเทศจีน ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา “แมะ” หรือ จับชีพจร เพื่อตรวจรักษาคนไข้ โดยออกใบสั่งยาไปให้ร้านขายยาสมุนไพรจีน เช่น ฮกแซตึ้ง หรือ ซ่งแซตึ้ง เจียดยาให้คนไข้นำกลับไปต้มกิน โดยไม่คิดเงิน แต่คนไข้มักจะใส่ซอง หรือ ห่อกระดาษแดง ให้เป็นเสมือนค่ายกครู ห้าบาท สิบบาท หมอวิรัติ รักษาคนไขแบบนี้มานานหลายปี จนกระทั่งเริ่มคิดค้นและเขียน ตำราการปรุงยาหอม ด้วยภูมิปัญญาที่ได้ศึกษาเรียนรู้มา โดยใช้ชื่อว่า ยาหอม ตรา หมอวิรัติ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นยาหอมตราทับทิม.
ยาหอมตราทับทิม ประกอบด้วยสมุนไพร หลายชนิด อาทิ โกฐสอ จันทร์เทศ เปลือกอบเชย กานพลู กฤษณาเนื้อไม้ ผิวส้มเขียว ชะเอมเทศ มีสรรพคุณ แก้อาการวินเวียนศีรษะ เป็นลมหมดสติ นอนไม่หลับ บำรุงครรภ์ บำรุงหัวใจ ถอนพิษเบื่อเมา เป็นต้น
ระยะแรกของการปรุงยาหอม หมอวิรัติ ได้แจกจ่ายให้คนไข้ลองเอาไปใช้ พอได้ผลดี จึงเริ่มทำขาย โดยเปิดเป็น ร้านขายยาหอม ใช้ชื่อว่า ร้านวิรัติพานิช
ช่วงแรกเริ่ม ยาหอม ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก เพราะใช้วิธีการประชาสัมพันธ์แบบผู้ใช้ บอกต่อๆ ไป จนกระทั่ง ทายาทรุ่นที่ สอง ได้เรียนรู้และศึกษาวิธีการปรุงยาหอมจากตำรา ที่ผู้เป็นพ่อ ได้เขียนทิ้งเอาไว้ให้ โดยเน้นวิธีการปรุงยาอย่างมีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยจนได้ มาตรฐาน จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จากนั้น จึงใช้เทคนิคการขาย แบบลดแลกแจกแถม บ้างก็ ถวายพระ พระจึงนำไปให้ญาติโยมใช้ เพื่อใช้แล้วดี ได้ผลชะงัด จึงเกิดการบอกต่อกันไป จนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ปัจจุบัน ยาหอมตราทับทิม สูตรหมอวิรัติ กลายเป็นของดีประจำเมืองอุทัยธานี และถูกส่งไปขายทั่วประเทศ ทายาทรุ่นที่ สอง ได้ มีโครงการปลูกสร้างสถานที่ผลิตยาเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณะสุข กำหนด สำหรับปรุงยาหอม และยาสูตรอื่นๆ ของหมอวิรัติ ด้วยเจตจำนง ที่จะสืบทอดภูมิปัญญาของหมอวิรัติ จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน ให้ดำรงสืบเนื่องไปในอนาคต