วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

ประวัติเมืองอุทัยธานี


เมืองอุทัยธานี
มีหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์ของกรมศิลปากรยืนยันไว้ว่าเป็นที่อยู่อาศํยของมนุษย์ก่อน ประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 3000 ปี มาแล้ว โดยพบหลักฐานยืนยันในหลายพื้นที่ เช่น โครงกระดูก เครื่องมือหินกะเทาะจากหินกรวด ภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์บนหน้าผา (เขาปลาร้า) เป็นต้น

จังหวัดอุทัยธานี

ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง มีพื้นที่ประมาณ 6,730 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและและภูเขาสูง สภาพป่าไม้ของจังหวัดอุทัยธานีอุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายทางธรรมชาติ เขตรักษาพันธุ์ห้วยขาแข้งจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่ควรค่าแก่การดูแลรักษาและนำความภาคภูมิใจมาสู่คนไทยทุกคน ดินแดนบางส่วนพบหลักฐานว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์และเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณหลายเมือง ได้แก่เมืองโบราณบึงคอกช้างในสมัยทวารวดี เมืองโบราณบ้านใต้ เมืองโบราณบ้านคูเมือง และ เมืองโบราณการุ้ง
ตามตำนานกล่าวว่าในสมัยสุโขทัยท้าวมหาพรหมได้เข้ามาสร้างเมืองที่บ้านอุทัยเก่า(อำเภอหนองฉาง)แล้วพาคนไทยมาอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านกะเหรี่ยงและหมู่บ้านมอญจึงเรียกว่า "เมืองอู่ไทย" ตามกลุ่มหรือที่อยู่ของคนไทย ต่อมาเกิดความแห้งแล้งกระแสน้ำเปลี่ยนทางเมืองจึงถูกทิ้งร้าง ในสมัยอยุธยาชาวกะเหรี่ยงชื่อ "พะตะเบิด" เข้ามาปรับปรุงเมืองอู่ไทยโดยขุดทะเลสาบขังน้ำไว้ใกล้เมืองและเป็นผู้ปกครองเมืองอู่ไทยเก่าคนแรก ชื่อเมืองจึงเรียกเพี้ยนเป็น "เมืองอุไทย" ตามสำเนียงชาวกะเหรี่ยงและมีฐานะเป็นหัวเมืองหน้าด่านชั้นนอกสกัดกั้นกองทัพพม่าที่จะเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีการอพยพผู้คนมาตั้งบ้านเรือนที่ริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรังมากขึ้น และได้กลายเป็นที่ตั้งของตัวเมืองอุทัยธานีในปัจจุบัน

คำขวัญเมืองอุทัยธานี

อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว
ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง
แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ



**ภาพถ่ายเมืองอุทัยธานี ภาพนี้เป็นภาพเก่าที่ร้านยาหอมตราทับทิม (หมอวิรัติ) อัดกรอบรูปเก็บไว้ สภาพเมืองยังคงสภาพความเก่าดั้งเดิมอยู่มาก ด้านล่างของภาพคือ แม่น้ำสะแกกรัง ด้านบนของภาพเป็นเขาสะแกกรัง บริเวณกลางภาพเป็นสภาพบ้านเมือง ตลาดเก่า จะมีวงเวียนห้าแยก เลยไปอีกนิดจะเป็นร้านยา ยาหอมตราทับทิม(หมอวิรัติ) สภาพยังคงไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง**

เมืองอุทัยธานี เมืองเก่า ที่น่าอยู่




ยาหอมไทย



“ ยาหอมไทย ” เป็นยาแก้โรคหัวใจของไทยแท้แต่โบราณนั่นเอง แต่เดี๋ยวนี้ยาหอมไทยเริ่มก้าวไกลสู่โลกาภิวัฒน์แล้ว เพราะได้มีการศึกษาพัฒนายาหอมกันอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 สถาบันการแพทย์แผนไทยกระทรวงสาธารณสุขได้หยิบเอายาหอม ที่ประกาศเป็นยาสามัญประจำบ้าน มาศึกษาวิจัยสรรพคุณใหม่ รวมทั้งทบทวนงานวิจัยเดิมทั้งหมดเกี่ยวกับยาหอมซึ่งเคยศึกษากันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515

การพัฒนายาหอม ในขั้นต้นนี้ เป็นการศึกษาสรรพคุณตามวิธีการทางการแพทย์เภสัชแผนใหม่ โดยความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นักวิชาการด้านการแพทย์เภสัชจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทยและสมาคมผู้ผลิตยาแผนไทย ผลสรุปจากงานวิจัยสมัยใหม่ที่ยืนยันความมหัศจรรย์ของภูมิปัญยาไทยด้านสมุนไพรในตำรับยาหอม คือ

ประการแรก มีมาตราฐานความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ สมุนไพรจำนวน 50-60 ชนิดที่เป็นวัตถุส่วนประกอบของยาหอมที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นั้นได้รับการพิสูจน์ทดลองอย่างดีแล้วว่าไม่มีความเป็นพิษ การศึกษาทดสอบความเป็นพิษฉับพลันของยาหอมทั้งหมด 4 ตำรับ ไม่พบการตายและความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับหนูขาว เมื่อให้ยาหอมทางปากขนาดสูงถึง 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม นั่นหมายความว่าถ้าคนน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม กินยาหอม 500 กรัม หรือครึ่งกิโลกรัมต่อครั้งก็ยังไม่มีความเป็นพิษใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งตามปกติแล้วคนเรากินยาหอมกันครั้งละไม่เกิน 1-2 กรัม เท่านั่นจึงห่างไกลจากความเป็นพิษชนิดหายห่วงไปได้เลย

ประการที่ 2 สรรพคุณบำรุงหัวใจ ได้รับการการันตี จากนักวิจัยหลายสำนักว่าเชื่อถือได้ ข้อสรุปจากการวิจัยพบว่า ยาหอมมีฤทธิ์เพิ่มแรงหดตัวของหลอดเลือดแดงใหญ่ของหัวใจ ( Cardio-Aorta ) ซึ่งหมายความว่าช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจอย่างช้าๆเห็นผลภายใน 5 นาที และออกฤทธิ์นานถึง 20 นาที ในขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มความดันโลหิตภายใน 15-30 นาที โดยจะออกฤทธิ์อยู่นานถึง 60-90 นาที สรรพคุณ เพิ่มแรงบีบของหัวใจและเพิ่มความดันโลหิตนี้เอง จะมีผลในการเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของหลอดเลือดขนาดเล็กที่ไปเลี้ยงสมองและ อวัยวะส่วนปลายของทั้งภายในร่างกาย เช่น ปอด ตับ ไต กระเพาะอาหาร เป็นต้น และอวัยวะภายนอกร่างกาย เช่น เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงปลายมือ ปลายเท้า แม้กระทั่งอวัยวะสืบพันธุ์ เป็นต้น ดังนั้นคุณผู้ชายที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาไวอากร้า ซึ่งราคาแพงและอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต ฤทธิ์ของยาหอมต่อระบบไหลเวียนโลหิตของหัวใจ สมอง และทั่วร่างกาย ซึ่งค้นพบจากงานวิจัยสมัยใหม่นี้เอง เป็นหลักฐานยืนยันถึงสรรพคุณของยาหอมซึ่งค้นพบมาตั้งแต่ครั้งโบราณแล้วว่า ช่วยแก้อาการใจสั่น เป็นลม หน้ามืด ตาลาย วิงเวียนศีรษะ เหน็บชา รวมทั้งอาการเนื่องจากมีความดันโลหิตต่ำ และเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

ประการที่ 3 สรรพคุณแก้จุกเสียด ปวดท้อง จากการศึกษาวิจัยยาหอมมีผลต่อการหลั่งสารต่างๆ ในกระเพาะอาหาร กล่าวคือ ยาหอมมีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรด การหลั่งเอนไซน์เปปซิน ในขณะเดียวกันช่วยเพิ่มการหลั่งเมือกที่เคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งฤทธิ์ดังกล่าวนี้เองเป็นสรรพคุณส่วนหนึ่งของยาหอมที่ช่วยแก้อาการจุก เสียด ปวดท้อง จึงไม่ต้อง สงสัยเลยว่า ทำไมคนไทยสมัยก่อนจึงใช้ยาหอมเป็นยาครอบจักรวาล แก้อาการเจ็บไข้ได้ป่วยในชีวิตประจำวันกันอย่างแพร่หลาย


***ขอขอบคุณข้อมูลจาก บทความมติชนสุดสัปดาห์

*********************************************

วันหนึ่งได้ไปพบลูกค้าที่จังหวัดอุทัยธานี ด้านหน้าของบริษัท มีข้อความหนึ่ง เขียนบนกระดาษธรรมดาแปะไว้ แต่มีเนื้อหาซึ่งเป็นข้อคิดดี ใจความว่า

ทำ งานให้ได้ความตามนายสอน
งาน มาก่อนเรื่องส่วนตัวไม่มัวหมอง
ให้ ความรักนับถือซื่อสัตย์ครอง
เป็น ที่ต้องใจมิตรใกล้ชิดกัน


ไว้ วางใจใบหน้าอย่าเย่อหยิ่ง
ใจ รักจริงงานที่ทำพร่ำขยัน
ได้ ผลงานได้มิตรดีทุกวี่วัน
จริง ใจกันอย่าระแวงแกล้งทำลาย

ไม่ ทำตนเป็นคนน้ำปริ่มแก้ว
ละ ความเป็นผู้รู้แล้วโลกทั้งหลาย
ทิ้ง โมหะสะสางสร้างใจกาย
งาน มากมายจะสำเร็จเสร็จสมใจ

กรกฏ

ขอขอบคุณ บริษัท คูโบต้าอุทัยธานี จำกัด

***************************************************************************


สมุนไพรจีนสำหรับสุภาพบุรุษ

วันก่อนลองเข้า เว็บไซด์ ค้นหาความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจีน ไปพบเนื้อหาในเว็บไซด์หนึ่ง ชื่อ www.tigerdragon.in.th มีเรื่องราวเกี่ยวกับสมุนไพรหลายอย่าง แต่ที่น่าสนใจคือ มีสมุนไพรจีนสำหรับสุภาพบุรุษ ผมเลยขอคัดลอกบางส่วนมาให้ชมกัน น่าจะมีประโยชน์บ้างนะครับ


หยิมเยียงขัก Herba Epimedii

ส่วนที่ใช้ ใบ ฤทธิ์และรส ฤทธิ์อุ่น รสหวานอมเปรี้ยว
สรรพคุณ บำรุงไต เสริมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยอาการปวดเมื่อยหลังและหัวเข่า ขับความชื้นในร่างกาย




โสม Panax Ginseng
ส่วนที่ใช้ ราก ฤทธิ์และรส ฤทธิ์อุ่น รสหวานอมขมเล็กน้อย
สรรพคุณ ช่วยการเผาผลาญอาหารในร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกันโรค ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงร่างกาย บำรุงกระเพาะอาหาร กระตุ้นประสาท เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคโลหิตจาง เหมาะสำหรับผู้มีร่างกายอ่อนแอ







ฉ่งย้ง Herba Cistanches

ส่วนที่ใช้ ลำต้น ฤทธิ์และรส ฤทธิ์อุ่น รสหวานอมเปรี้ยวและเค็ม
สรรพคุณ เสริมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยอาการปวดเมื่อยหลังและหัวเข่า








ตังเซียม Radix Codonopsis Pilosulae

ส่วนที่ใช้ ราก ฤทธิ์และรส รสหวาน ฤทธิ์เป็นกลาง ไม่มีพิษ
สรรพคุณ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย บำรุงเลือดลม ม้ามและกระเพาอาหาร เสริมสมรรถภาพทางเพศ







ปาเก็ก Radix Morinda Officinalis

ส่วนที่ใช้ ราก ฤทธิ์และรส ฤทธิ์อุ่น รสหวานอมเผ็ด ไม่มีพิษ
สรรพคุณ บำรุงเลือดลม เสริมการทำงานของไต เสริมสมรรถภาพทางเพศ และเสริมกำลังของเส้นเอ็นให้แข็งแรงขึ้น ช่วยอาการปวดเมื่อยหลังและหัวเข่า





ฮกเหล็ง Poria Coccos
ส่วนที่ใช้ เนื้อในและเปลือกนอก ฤทธิ์และรส ฤทธิ์ปานกลาง รสจืดออกหวานเล็กน้อย
สรรพคุณ ช่วยการไหลเวียนของน้ำในร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ เสริมสมรรถภาพทางเพศ เสริมความจำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น